เจ้าของธุรกิจ

มุมมองธุรกิจขายตรง แบบที่ 2  มุมมองของผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงหรือเจ้าของบริษัทฯ

ก็คือ ธุรกิจขายตรงก็เป็นแค่อีกหนึ่งช่องด้านทางการตลาดนั่นเอง ที่ไม่ใช่การขายสินค้าแบบดั่งเดิมอื่นๆ ทั่วไป ในการจัดจำหน่ายสินค้าที่ทางบริษัทมีอยู่หรือผลิดขึ้นมาเอง ทุกบริษัทก็ต้องการที่จะให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเองขายให้ได้มากที่สุดให้จงได้ ต้องการให้สินค้ากระจายออกไปสู่มือของผู้บริโภค จึงทำให้บางบริษัทฯ ตัดสินใจเลือกหลักการของระบบเครือข่ายแบบขายตรงมาใช้ในการดำเนินเป็นธุรกิจของบริษัท หรือจะเรียกว่า ธุรกิจการขายสินค้าแบบปากต่อปาก แบบผู้บริโภคถึงผู้บริโภค (Consumer to Consumer)

เมื่อสมาชิกได้ซื้อสินค้าไปใช้เองแล้ว ในเมื่อใช้สินค้าดี รู้สึกประทับใจสินค้าแล้ว ก็ช่วยบอกต่อคนอื่นๆ ต่อไปซิ ..ก็ให้สมาชิกทำแค่นี้เอง สมาชิกก็จะมีรายได้หรือผลประโยชน์ตอบแทนกลับมาแล้ว หรือเป็นการใช้พลังมวลชนให้ไปชักชวนคนทั่วๆ ไป ให้สมัครเข้ามารวมเป็นสมาชิกของบริษัทให้ได้มากที่สุด

แท้จริงแล้ว ตัวของสมาชิกนี่เองแหละ ที่เป็น "ผู้บริโภคสินค้า" ที่ซื้อสัตย์ที่สุดของบริษัทขายตรงเป็นอันดับแรกกันเลยก็ว่าได้ นี่คือความเป็นจริงของธุรกิจนี้

การตลาดแบบขายตรง สรุปก็คือ บริษัทมอบหมายให้สมาชิกเป็นคนช่วยขายสินค้าให้กับบริษัท ช่วยกระจายสินค้าไปให้กับคนอื่นๆ แทนการพึ่งพาพ่อค้าส่ง/พ่อค้าปลีก แทนการจ้างบริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้า แทนการจ้างเซลล์หรือจ้างพนักงานขาย ที่ต้องจ่ายเงินเดือนให้กับเค้าด้วย จึงเป็นวิธีการกระจายสินค้าของบริษัทอีกรูปแบบหนึ่ง แทนวิธีการขายสินค้าแบบดั่งเดิม

ข้อดี: ของการตลาดแบบขายตรง ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทางบริษัทไม่ต้องจ่ายค่าจ้างหรือเงินเดือนประจำแต่อย่างใดเลย ให้กับสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระเลยสักบาท เพียงแค่อาศัยหลักการของแผนการตลาดขายตรง ที่ทางบริษัทได้คิดค้นหรือออกแบบแผนการจ่ายขึ้นมาเอง หรือบางบริษัทก็ใช้การก๊อปปี้แผนการตลาดของบริษัทอื่นมาใช้เลยก็มี เพื่อทำให้บริษัทมีรูปแบบของระบบบคำนวณค่าโบนัสตามแผนการตลาดและสามารถคำนวณผลงานของสมาชิกนำมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรายได้ให้กับสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระ ในบริษัทของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมีระบบและหลักการ

สิ่งที่ผู้ประกอบการขายตรงได้ ก็คือสมาชิกหรือผู้จำหน่ายอิสระ แต่ละคนจะต้องลงแรง ลงทุนความสามารถของตัวเอง ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ความขยันในการสร้างเครือข่ายทีมงานของตัวเองไปก่อน สมาชิกต้องพยายามสร้างทีมงานภายใต้สายงานให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้า..ทีมของสมาชิกยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ระบบคำนวณแผนการตลาดหรือแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ก็จะส่งผลตอบแทนมอบกับคืนมาเป็นเงินรายได้ให้กับสมาชิก, ใหกับแม่ทีมยิ่งขึ้นไปด้วย

ว่ากันด้วย เรื่องการขายเก่งส่วนตัว(แค่เพียงอย่างเดียว) จริงแล้วไม่ค่อยเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบงานขายก็สามารถเข้ามาทำงานขายตรงได้เช่นกัน มีสมาชิกหลายท่านที่สมัครเข้ามาเพื่อทำงานแบบเน้นแต่งเรื่องการขยายทีมเป็นหลักสำคัญล้วนๆ ก็มีให้เห็นมากมาย (แต่ถ้าใครชอบงานขาย เพราะว่าขายเก่งส่วนตัวในงานตัวแทนขายประกันชีวิต อันนี้ซิ รับรองว่ารวยแน่ๆ)

programmlm แผนโรอัพ 330

..ในการทำงานธุรกิจเครือข่ายแบบขายตรง ถ้าสมาชิกท่านใดขายสินค้ายอดส่วนตัวเก่งแค่เรื่องเดียว แต่ขยายทีมงานภายใต้องค์กรไม่เก่งหรือไม่เป็นเลย ก็จะได้แค่เงินกำไรหรือผลประโยชน์จากการขายส่วนตัว(ในแผนการตลาดขายตรง จะเรียกว่า รายได้จากโบนัสยอดขายส่วนตัวหรือโบนัสส่วนบุคคล) ไปแค่พอประมาณที่เพิ่มขึ้นมาอีกจากการเก่งคนเดียว

ระบบขายตรงหรือระบบการตลาดแบบเครือข่ายชื่อก็บอกแล้วว่า มันเป็นระบบเครือข่าย คือการโยงใยผู้คนมากมายให้มาเกี่ยวเนื่องในการทำงานด้านการตลาดร่วมกัน ดั้งนั้นการสร้างทีมงานการขยายงานองค์กรให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาเป็นอันดับแรกๆ ที่จะทำให้สมาชิกก้าวไปสู่ความสำเร็จในงานสาขาอาชีพนี้ได้เท่านั้น

จึงมีคำพูดของนักการตลาดแบบขายตรง ว่า "ขายเก่ง หรือจะสู้นักขยายงานสร้างทีมเก่งไม่ได้หรอก" หรือคำว่า "ใครที่ขายเก่งอย่างเดียว ก็ไม่มีทางมีรายได้มากมายเท่ากับสมาชิกที่เป็นนักขยายทีมงานเก่งได้อย่างแน่นอน" หรือคำว่า "สมาชิกที่เป็น นักขยายทีมงานเก่งจะทำแค่ซื้อสินค้าเพื่อรักษายอดเท่านั้นก็พอ แต่จะเอาเวลาทั้งหมดไปเน้นทำงานด้านการขยายทีมงานให้ได้มากที่สุด" ทำแค่นี้ก็ทำให้มีรายได้มากมายแล้วละ

แม่ทีมสมาชิกท่านใด ที่เป็นนักขยายทีมงานก็เก่ง เป็นนักแนะนำสมาชิกใหม่เก่ง เป็นนักฝึกอบรมก็เก่ง เป็นนักพัฒนาภาวะการเป็นผู้นำเก่ง เป็นนักพูดทีดี(หรือเป็นนักบรรยายที่ดี) เป็นผู้ที่มีสภาวะผู้นำสูงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทีมงานได้ เป็นนักจัดประชุมสัมนาทั้งนอกและในบริษัท เป็นนักจัดประชุมแบบเฮ้าท์มิตติ้งหรือโฮมมิตติ้งก็เก่ง ถ้ายิ่งเก่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นั่นแหละ จะส่งผลให้เป็นที่มาของรายได้ของสมาชิกท่านนั้น ที่มากมาย 

ข้อคิด: แต่ถ้าสมาชิกท่านใด ขายสินค้าเองก็เก่ง ขยายทีมงานก็เก่ง แบบนี้แบบนี้ต้องยกนิ้วโป้งให้ไปเลย จะเรียกว่า "เสือติดปีก" ที่จะได้พบกับความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน อนาคตก็คือ ว่าที ผู้ประสบความสำเร็จ "คนรวย"

ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงหรือเจ้าของบริษัทขายตรง ถ้าบริษัทไหนยิ่งมีแม่ทีมและมีสมาชิกที่ขยายทีมงานเก่งเยอะๆ มีสมาชิกที่มีสภาวะผู้นำสูงมากหลายๆ ท่าน และมีจำนวนสมาชิกภายในบริษัทจำนวนหลายหมื่นรหัส หลายแสนรหัส หลายล้านรหัส ก็ย่อมส่งผลให้สินค้าของบริษัทยิ่งขายได้ดีมากขึ้น เป็นเงาตามตัวไปด้วย

กดที่ "NEXT" อ่านต่อ..